เสียงปืนช่องบก เกิดการปะทะกันระหว่าง “ไทย และทหารกัมพูชา ช่องบก
เสียงปืนช่องบก เป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย สมัครสล็อตโจ๊กเกอร์123 สำหรับการปะทะกันระหว่าง “ไทยและทหารกัมพูชา” ที่บริเวณ “ช่องบก” ทางเข้า sbobet มือ ถือ777 จังหวัดอุบลราชธานี เพราะก่อนหน้านี้ก็เกิดความสุ่มเสี่ยงอันเกิดจากการยั่วยุด้วย “ความตั้งใจ” ของทหารกัมพูชามาอย่างต่อเนื่อง
เสียงปืนช่องบก คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ทำไมกัมพูชาถึงตั้งใจ ทำอย่างนั้น สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดที่ช่องบก
สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดที่ช่องบกนั้น แม้ “สหายอ้วน-นายภูมิธรรม เวชชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะบอกว่า “ไม่มีอะไร” แต่ความจริงก็คือ “มีอะไร” และ “มีมาก” เสียด้วย หากดูพฤติกรรมของทหารกัมพูชาที่เข้ามาขุด “คูเลต” หรือ “สนามเพลาะ” ก่อนที่จะเปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทย
เสียงปืนที่ช่องบก กล่าวคือ หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ตรวจพบการขุดสนามเพลาะเป็นระยะทาง 650 เมตรและมีการเคลื่อนกำลังพลของฝ่ายกัมพูชา โดยได้เข้าไปเจรจาให้ถอนกำลัง แต่ทางทหารกัมพูชายิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน ก่อนที่ผู้นำทางทหารในพื้นที่และระดับนโยบายจะต่อสายเพื่อยุติศึกระหว่างกันได้เป็นการ “ชั่วคราว”
ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา โดย “พล.ต.เหมา พัลลา (Mao Phalla)” โฆษกกองทัพกัมพูชา ให้ข้อมูลไปในทิศทางตรงกันข้ามกับฝ่ายไทย อ้างว่า กองทัพกัมพูชาอยู่ระหว่างการลาดตระเวนตามปกติตามแนวชายแดน แต่ฝ่ายไทยได้เปิดฉากยิงใส่ก่อน พร้อมระบุในแถลงการณ์ว่า “หนึ่งในทหารของพวกเราเสียชีวิตระหว่างการต่อสู้และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง”
ส่วนปฏิกิริยาจาก “สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ก็ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเสียใจกับครอบครัวทหารที่เสียชีวิต พร้อมระบุด้วยว่า “ผมขอประณามบุคคลหรือชนชั้นใดที่ตัดสินใจจะทำการรุกรานดังกล่าว ซึ่งคล้ายกับการบุกรุกเมื่อปี 2018-2011ที่ปราสาทเขาพระวิหาร
สมเด็จฯ ฮุน เซน ระบุว่า ไม่ต้องการเห็นการต่อสู้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลตัดสินใจส่งทหารและอาวุธหนักไปยังชายแดนเพื่อเตรียมความพร้อมหากมีกรณีบุกรุกเพิ่มเติม ก่อนที่โพสต์ดุเดือดเลือดพล่านในวันถัดมา โดยนำสารพิเศษที่ตนเองกล่าวในการประชุมวุฒิสภากัมพูชามาเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 สรุปใจความได้ว่า จุดปะทะเป็นของกัมพูชา ตนเองเคยไปเยือนในปี 2552 พร้อมท้ากองทัพไทยบุกนครวัต จะได้ร้องยูเอ็นว่าไทยรุกราน และทำลายกองทัพไทยให้ย่อยยับ
เช่นเดียวกับ “สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรี ผู้เป็นลูกชายที่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นายคือ “สิบเอกซวน รูน (Suan Roan)” อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นทหารท้องถิ่นในพื้นที่มอมเตย อำเภอจอมกราน จังหวัดพระวิหาร และถูกส่งมาประจำการชายแดนไทย-กัมพูชา โดยร่างของเขาถูกนำออกจากพื้นที่ชายแดนไปประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหารได้นำเงินมามอบให้กับภรรยาของสิบเอกซวน รูน พร้อมยกย่องให้เป็น “นักรบวีรชน”
ส่วนทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บนั้น มีข้อมูลยืนยันตรงกันว่ามีจำนวน 4 นาย ขณะที่ฝ่ายไทยไม่มีรายงานการสูญเสียแต่อย่างใด
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ ก่อนหน้านี้ มีการรายงานว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อน เป็นที่ที่ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ ที่ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดพบว่า เป็นดินแดนของราชอาณาจักรไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมคูเลตที่ขุดก็รุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทยเกือบ 100 เมตรเลยทีเดียว