จับเชฟอ้อย ตำรวจไซเบอร์ รวบเชฟอ้อยกระทะเหล็ก ยักยอกเพรชแฟนคลับ
จับเชฟอ้อย ตำรวจไซเบอร์จับ เชฟอ้อยกระทะเหล็ก บาคาร่า ไม่มีขั้น ต่ํา หลังนำเพรชแฟนคลับไปขายนำเงินมาหมุนธุรกิจตัวเอง เล่นบาคาร่า ออนไลน์ฟรี เสียหาย 2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกันจับกุม ยุวดี
เชฟอ้อยกระทะเหล็ก ตามหมายจับของศาลแขวงบางบอน ลงวันที่ 2 กันยายน 2567 ข้อหาความผิดฐานยักยอกทรัพย์ สืบเนื่องจากผู้เสียหายรู้จักกับผู้ต้องหาผ่านรายการโทรทัศน์ และเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นเชฟรายการดัง จึงติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหาร จากนั้นได้พูดคุยกันจนเกิดความสนิทสนมกัน
จับเชฟอ้อย ‘เชพอ้อยกระทะเหล็ก’ โดนจับมีผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
เชฟ อ้อย ถูก จับ ผู้เสียหายแจ้งความจับเชฟ ชื่อดังสืบเนื่องจากความสนิทสนม เรื่องการซื้อขายแฟรนไซส์จากเชฟอ้อยผู้ต้องหาเห็นว่าผู้เสียหายต้องการจะขายทองคำ เพชร และพระเครื่อง มูลค่ากว่า 2 ล้านบาทจึงเสนอตัวจะเป็นนายหน้านำทรัพย์สินดังกล่าวไปทำการขายให้ ผู้เสียหายเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นเชฟชื่อดัง และเป็นที่รู้จักในวงการ
เชฟ อ้อย ถูก จับ ผู้เสียหายจึงยอม ให้ผู้ต้องหานำทรัพย์สินดังกล่าวไป เพื่อทำการขาย ระยะเวลาผ่านไปหลายเดือน ผู้เสียหายทราบภายหลัง ว่าผู้ต้องหาได้นำทรัพย์สินของตน ไปมัดจำเพื่อเปิดร้านอาหาร จึงได้ทวงถามกลับมายังผู้ต้องหา พบว่าเป็นความจริงจึงเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล ( สน. ) บางบอน
ต่อมาชุดสืบสวน ได้ทำการแกะรอย จนทราบว่าผู้ต้องหามาอยู่ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าจับกุม สอบสวนให้การรับสารภาพว่ามีการนำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปจริงโดยสาเหตุมาจากหมุนเงินไม่ทัน หลังจากที่ออกรายการชื่อดังไป ทำให้มีผู้ติดตามลดลง และมีคนซื้อแฟรนไชส์ลดลงด้วย
จับเชฟอ้อย เนื่องด้วยมีปัญหาทางธุรกิจพอดี ทำให้ตัดสินใจก่อเหตุ ยุวดี กล่าวว่า นำเพชรจากผู้เสียหายไปขายจริง โดยทำหน้าที่ เป็นนายหน้าเอาไปให้โปรดิวเซอร์ รายการทีวีช่องดัง ซึ่งทางนั้นก็ยังไม่ได้จ่ายเงินให้ แต่ช่วงที่นำเพชร มาครั้งแรกตนได้จ่ายเงินส่วนตัว ให้กับผู้เสียหายไปก่อน 500,000 บาท แต่ต่อมาภายหลัง ได้ออกรายการเนื่องจากมีปัญหาเรื่องลูกชิ้น ทำให้ขายไม่ดีเหมือนก่อน ขาดสภาพคล่องไม่สามารถผ่อนคืน ให้กับผู้เสียหายได้อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี หรือไม่ จ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย ที่ผ่านมาพยายามติดต่อผู้เสียหายมาโดยตลอด และพยายามที่จะขอไกล่เกลี่ย เพื่อที่จะชดใช้เงินให้เต็มจำนวน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางบอน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
